เราใส่ใจดูแลผิวหน้ากันอย่างดี แต่ลืมไปหรือเปล่าว่า “หนังศีรษะ” ก็เป็นผิวหนังส่วนหนึ่ง ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ไม่แพ้กัน! หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “pH5” ว่าสำคัญต่อผิว แต่รู้มั้ยว่าสำคัญกับหนังศีรษะของเราด้วยเช่นกัน Follizin จะพาไปเจาะลึก pH5 ว่าคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผม และไขข้อข้องใจว่าจำเป็นต้องมีในผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะ เช่น แชมพู ครีมนวด หรือทรีทเมนต์ หรือไม่?
pH5 คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับผิว?
pH ย่อมาจาก potential of hydrogen เป็นค่าที่ใช้วัดความเป็นกรด-ด่าง มีค่าตั้งแต่ 0-14 โดยค่า pH 7 คือกลาง น้อยกว่า 7 เป็นกรด มากกว่า 7 เป็นด่าง ผิวของคนเราตามธรรมชาติจะมีค่า pH อยู่ระหว่าง 4.5-5.5 ซึ่งมีความเป็นกรดอ่อน ๆ เรียกว่า Acid Mantle เจ้า Acid Mantle นี่แหละ เป็นเกราะป้องกันผิวชั้นดี ช่วยปกป้องผิวจากแบคทีเรีย เชื้อรา มลภาวะ และการระเหยของน้ำ ทำให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ไม่แพ้ง่าย
pH5 เกี่ยวอะไรกับหนังศีรษะ (pH5 หนังศีรษะ) และเส้นผม (pH5 เส้นผม)?
เช่นเดียวกับผิวหน้า หนังศีรษะที่แข็งแรงก็ควรมีค่า pH ประมาณ 5 หากค่า pH สูงหรือต่ำเกินไป จะทำให้สมดุลของหนังศีรษะเสียไป เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น
- pH สูงเกินไป (ด่าง) หนังศีรษะแห้ง คัน ระคายเคือง เสี่ยงต่อการติดเชื้อราและแบคทีเรีย ผมแห้งเสีย แตกปลาย ขาดความเงางาม
- pH ต่ำเกินไป (กรด) หนังศีรษะมันเกินไป เกิดรังแค ผมลีบแบน
จำเป็นต้องใช้แชมพู pH5 (แชมพู pH5) ไหม?
คำตอบคือ “จำเป็น” โดยเฉพาะคนที่มีหนังศีรษะบอบบาง แพ้ง่าย หรือมีปัญหาหนังศีรษะอยู่แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะที่มีค่า pH5 จะช่วยรักษาสมดุลของหนังศีรษะ เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ลดการระคายเคือง และป้องกันปัญหาต่าง ๆ เช่น ผมร่วง รังแค หนังศีรษะแห้ง หรือหนังศีรษะมัน
ข้อดีของการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะ pH5
- รักษาสมดุล pH ของหนังศีรษะ ช่วยให้หนังศีรษะแข็งแรง ไม่แห้งหรือมันเกินไป
- ลดการระคายเคือง เหมาะสำหรับคนที่มีหนังศีรษะแพ้ง่าย
- ป้องกันผมร่วง หนังศีรษะที่แข็งแรงจะช่วยให้รากผมแข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผม
- ลดรังแค ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุของรังแค
- ทำให้ผมแข็งแรง เงางาม หนังศีรษะที่สุขภาพดีเป็นพื้นฐานสำคัญของเส้นผมที่แข็งแรงและเงางาม
เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง?
นอกจากเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH5 แล้ว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีรุนแรง เช่น SLS, SLES, พาราเบน และน้ำหอม และเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของตัวเองด้วย เช่น สูตรสำหรับผมแห้ง ผมทำสี หรือผมมัน
การดูแลหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การดูแลผิวหน้า ลองเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี pH5 อย่าง ผลิตภัณฑ์ของ Follizin ซึ่งมีค่า pH5 ช่วยรักษาสมดุลให้กับหนังศีรษะ และยังปราศจากสารที่เป็นอันตรายและก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย จากนั้นสังเกตความเปลี่ยนแปลง คุณอาจจะประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ได้